ข้อกำหนดทางกฎหมายที่ควรทราบเกี่ยวกับการประกาศกฎอัยการศึก
ตามที่กองทัพบกโดยผู้บัญชาการกองทัพบกได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก
พระพุทธศักราช 2457 ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 20
พฤษภาคม 2557 เวลา 03.00
น. เป็นต้นไป พร้อมทั้งได้จัดตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.)
เพื่อทำหน้าที่ในการป้องกัน ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขสถานการณ์ที่
ส่งผลกระทบต่อความเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ ตลอดจนมีอำนาจบังคับใช้กฎหมายทุกมาตราใน
พ.ร.บ.กฎอัยการศึกฯ นั้น
การประกาศกฎอัยการศึกดังกล่าวมีข้อกำหนดทางกฎหมายที่ประชาชนทั่วไปควรทราบอยู่หลายประการ
ดังนี้
● ระหว่างการประกาศกฎอัยการศึก
ทหารเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการยุทธ การ ระงับ ปราบปราม การรักษาความสงบเรียบร้อย
โดยข้าราชการฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามคำสั่ง
ของทหาร (มาตรา 6)
● ระหว่างการประกาศกฎอัยการศึก
ทหารมีอำนาจดังต่อไปนี้
ตรวจค้นสิ่งของต้องห้าม หรือต้องยึด
หรือมีไว้ในครอบครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้
ไม่ว่าจะเป็นการค้นตัวบุคคล ยานพาหนะ เคหะสถาน สิ่งปลูกสร้าง หรือสถานที่ใด
ๆ และไม่ว่า ในเวลาใด ๆ ก็ตาม (มาตรา 9
(1))
ตรวจข่าวสาร
หนังสือ สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ (มาตรา 9 (2) และ (3))
เกณฑ์พลเมืองให้ช่วยในกิจการทหาร รวมทั้งเกณฑ์ยานพาหนะ อาหาร
อาวุธ เครื่องมือ เครื่องใช้ต่าง ๆ (มาตรา
10)
ห้ามประชาชนกระทำการต่าง ๆ เช่น ห้ามมั่วสุม ห้ามโฆษณา
ห้ามใช้เส้นทางสาธารณะ ห้าม
ออกนอกเคหะสถาน เป็นต้น (มาตรา 11)
ยึดทรัพย์สินที่ได้จากการตรวจค้น จากการเกณฑ์
และทรัพย์สินที่เป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามต่าง ๆ
ดังที่กล่าวมาข้างต้น (มาตรา 12)
เข้าพักอาศัยในสถานที่ที่ทหารเห็นว่าจำเป็นเพื่อประโยชน์ในราชการ
(มาตรา 13)
กักตัวบุคคลที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นผู้ฝ่าฝืนกฎอัยการศึกหรือฝ่าฝืนคำสั่งทหาร
เป็นเวลา ไม่เกิน 7
วัน (มาตรา 15 ทวิ)
ทั้งนี้ โดยบุคคลที่ได้รับความเสียหายจากการใช้อำนาจของทหารดังที่กล่าวมานั้นไม่สามารถฟ้องเรียก
ค่าเสียหายหรือค่าปรับจากทหาร ไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆ (มาตรา 16)
อนึ่ง แม้ว่าการประกาศใช้กฎอัยการศึกจะสามารถกระทำได้โดยฝ่ายทหารก็ตาม
แต่การเลิกใช้กฎอัยการศึกจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อมีประกาศกระแสพระบรมราชโองการเท่านั้น
(มาตรา 5)